พ.ศ.๒๔๘๙ เหรียญศานติมาลา

พ.ศ. ๒๔๘๙ เหรียญศานติมาลา

พ.ศ.๒๔๘๙ เหรียญศานติมาลา

The Santi Mala Medal
ใช้อักษรย่อว่า ศ.ม. เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้า

     รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญศานติมาลาสำหรับพระราชทานเพื่อสนองคุณงามความดีและเป็นกิตติยานุสรณ์แก่ผู้ซึ่งได้กระทำการต่อต้าน ยอมเสียสละ ทำทุกอย่าง ทำการแก้กลับการร้ายให้กลายเป็นดียังผลให้ประเทศไทยบรรลุถึงซึ่งศานติภาพ และธำรงไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตย โดยโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติศานติมาลาพุทธศักราช ๒๔๘๙

มี ๒ ชนิด คือ ชนิดสามัญ เป็นเหรียญดีบุก และชนิดพิเศษเป็นเหรียญเงิน เหรียญนี้พระราชทานทั้งบุรุษและสตรี

ผู้ออกแบบ : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

๑. ชนิดสามัญ เป็นเหรียญดีบุก รูปกลมรี ด้านหน้า มีรูปไอราพต ด้านหลัง จารึกคาถาเป็นอักษรไทยและอักษรโรมันว่า “นต.ถิสน.ติ ปรํสุขํ” “NATTHI SANTI PARAM SUKAM” แปลว่า “ความสุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบไม่มี” ขนาดกว้าง ๔.๑ เซนติเมตร สูง ๕.๖ เซนติเมตร ห้อยแพรแถบสีแดง กว้าง ๔๐ มิลลิเมตร ตรงกึ่งกลางของแพรแถบมีริ้วสีน้ำเงิน กว้าง ๔ มิลลิเมตร และมีริ้วสีขาว กว้างริ้วละ ๒ มิลลิเมตร ประกอบ ๒ ข้าง ริ้วสีน้ำเงิน ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
สำหรับพระราชทานสตรี แพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย

๒. ชนิดพิเศษ มีลักษณะเช่นชนิดสามัญ แต่เป็นเหรียญเงิน และเหนือเหรียญขึ้นไปมีดาบตั้ง ทำด้วยเงินไขว้กันประกอบอยู่ด้วยมีขนาดเท่ากับเหรียญชนิดสามัญ

การพระราชทาน

๑. สำหรับพระราชทานผู้ทำความดีความชอบในการต่อต้านผู้รุกรานและยอมเสียสละทำการแก้ร้ายให้กลายเป็นดี ยังผลให้ประเทศไทยบรรลุถึงซึ่งศานติภาพ คงธำรงไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตย
๒. พระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อผู้ได้รับพระราชทานวายชนม์ ให้ทายาทโดยธรรมรักษาไว้เป็นที่ระลึก
๓. ไม่มีประกาศนียบัตรกำกับเหรียญฯ
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on email
Email
On Key

Related Posts

สารคดีเล่าเรื่องผ่านเหรียญ

สารคดีเล่าเรื่องผ่านเหรียญ EP1 | เหรียญประชันอาวุธ วัดเบญจมบพิตร ร.ศ.๑๒๕ https://www.youtube.com/watch?v=gKf1rqiTXCg&list=PLseyPJqYT8qCaYHhzhvdMe-mu_7uJEj6R จากบันทึกของหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุลได้บันทึกไว้ว่างานวัดเบญเป็นงานที่สนุกมากและเป็นที่เลื่องลือของชาวพระนครในเวลานั้นและในปี พ.ศ.2449 ได้มีการประชันศาสตราวุธต่างๆเช่น หอก ดาบ ง้าว ทวน กริช ปืน และขอช้าง เป็นต้น….”.เราจึงได้นำเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและที่มาของเหรียญประชันอาวุธ วัดเบญจมบพิตร ร.ศ. ๑๒๕มา #เล่าเรื่องผ่านเหรียญ ให้ทุกคนได้ย้อนเวลากลับไปด้วยกันเพราะ #เหรียญที่ระลึกเปรียบเสมือนหลักกิโลทางประวัติศาสตร์

พ.ศ.๒๕๖๒ เหรียญบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ ๑๐

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า   โดยที่เป็นการสมควรให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยเหรียญเฉลิมพระเกียรติและเหรียญที่ระลึก พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พ.ศ. ๒๕๖๒ เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

เหรียญเฉลิมพระเกียรติพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 4 พฤษภาคม 2562 ข้อมูลจำเพาะ ชนิดโลหะ เงิน ความบริสุทธิ์ 92.5% ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มิลลิเมตร น้ำหนัก 23 กรัม (ผลิตไม่เกิน 300,000 เหรียญ)

พ.ศ.๒๔๑๓ (จ.ศ.๑๒๓๒) เหรียญที่ระลึกเหรียญแรกของรัชกาลที่๕ (ส พ ป ม จ ๕)

พ.ศ.๒๔๑๓ (จ.ศ.๑๒๓๒) เหรียญที่ระลึกเหรียญแรกของรัชกาลที่๕ (ส พ ป ม จ ๕) เหรียญ ส พ ป ม จ ๕ เป็นเหรียญรางวัลซึ่งพระราชทานแก่ผู้ที่แต่งซุ้มไฟประกวดในวัง เนื่องในการเฉลิมพระชนมพรรษาในปีพศ 2413 ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 17 พรรษา เหรียญนี้จัดเป็นเหรียญที่ระลึกเหรียญแรกของรัชกาลที่๕ ตามประวัติกล่าวไว้ว่าทรงพระราชทานเป็นเนื้อกะไหล่ทอง เงินและทองแดง จำนวนที่โปรดเกล้าให้สร้าง ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าใด