Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๐ (ร.ศ.๑๒๖) เหรียญที่ระลึกงานศพเจ้าจอมมารดาทิพเกสร

พ.ศ.๒๔๕๐ (ร.ศ.๑๒๖) เหรียญที่ระลึกงานศพเจ้าจอมมารดาทิพเกสร

พ.ศ.๒๔๕๐ ( ร.ศ.๑๒๖ ) เหรียญที่ระลึกงานศพเจ้าจอมมารดาทิพเกสร

เจ้าจอมมารดาเจ้าทิพเกสร เป็นเจ้าหญิงจากเชียงใหม่พระองค์แรกที่ไปเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2426 ก็ได้ถวายตัวเป็นเจ้าจอม ซึ่งก่อนหน้าที่เจ้าหญิงทิพเกสร แห่งนครเชียงใหม่ เข้าถวายตัว ก็ได้ลงมาศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณี ของการอยู่ในพระราชสำนัก ของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าจอมมารดาแพ) ทรงเป็นผู้อภิบาล และโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานรรัตน์ราชมานิต (โต มานิตกุล) เป็นผู้อุปการะเป็นบุตรีบุญธรรม

เจ้าจอมเจ้าทิพเกสรเป็นเจ้าจอมเพียงพระองค์ ที่ถือว่า มาจากที่อื่น ในตอนนั้น ชาววังรู้จักล้านนา แต่เพียงว่า “ลาว” โดยที่ไม่รู้ว่า ล้านนา กับ ลาว นั้น แตกต่างกันอย่างไรบ้าง  เจ้าหญิงทิพเกสรนั้นเชื่อแน่ว่า ทรงได้รับการดูหมิ่นเหยียดยามจากบรรดาเจ้าจอมต่าง เมื่อเจ้าจอมเจ้าทิพเกสรประสูตร พระราชโอรส ในปี 2427 ด้วยเหตุที่มีสายพระโลหิตสัมพันธ์กับเจ้านายฝ่ายเหนือ พระองค์จึงได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระราชบิดาว่า “ดิลกนพรัตน์”

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๔๐ (ร.ศ.๑๑๖) เหรียญที่ระลึกทรงสมโภซเมื่อเสด็จกลับจากยุโรปครั้งที่.๑

พ.ศ.๒๔๕๐ (ร.ศ.๑๒๖) เหรียญเสด็จฯกลับจากยุโรปครั้งที่ ๒

พ.ศ.๒๔๕๐ เหรียญเสด็จฯกลับจากยุโรปครั้งที่ ๒

เหรียญที่ระลึกนี้เรียกอย่างลำลองว่า “ เหรียญเสด็จกลับ ” แต่ในการเรียกอย่างเป็นทางการแล้วต้องเรียกว่า “ เสมาพระบรมรูป ” หมายความว่า รูปลักษณะของเหรียญเป็นทรงเสมา และมีพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๕ ประดับอยู่คงเพียงประสงค์จะเรียกให้แตกต่างจากเสมาอักษรพระนามย่อ จปร ซึ่งทรงสร้างสำหรับพระราชทานเด็กๆตามเมืองต่างๆในคราวเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมือง ในภายหลังกรมธนารักษ์ได้จัดให้อยู่ในหมวดเหรียญที่ระลึกและให้ชื่อว่า “ เหรียญที่ระลึกเสด็จกลับจากยุโรป ครั้งที่ ๒ ”

ในการเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป ครั้งที่ ๒ ร . ศ . (พ . ศ . ๒๔๕๐) นี้เป็นการเสด็จไปเพื่อรักษาพระองค์ตามการถวายคำแนะนำของแพทย์หลวง คือ หมอโบเมอร์ โดยทรงมีพระโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และ พระวักตะ (ไต) และเป็นการเสด็จพระราชดำเนินแบบไม่เป็นทางการมีข้าราชบริพารตามเสด็จเพียง ๑๕ ท่าน เท่านั้น โดยเสด็จออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ ๒๗ มีนาคม พ . ศ . ๒๔๔๙ และกลับถึงกรุงเทพฯเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ . ศ . ๒๔๕๐ รวมระยะเวลา ๗ เดือน ๒๑ วัน

โรงกษาปณ์ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตเหรียญนี้เช่นเดียวกับเหรียญประพาสมาลา เหรียญช้างสามเศียร และเหรียญรัชมังคลาภิเศก กระบวนการจัดสร้างนั้นคงต้องต้องเร่งรีบพอสมควรเพราะรัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระราชดำริที่จะให้จัดส่งมาประเทศสยามให้ทันก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับถึงพระนคร เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงนำไปแจกแก่ราษฎรเมืองตราด และเมืองจันทบุรี

ฉะนั้นการแจกเหรียญเสด็จกลับนี้ได้แจกเป็นครั้งแรกที่เมืองตราด เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ . ศ . ๒๔๕๐ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการกลับคืนสู่อำนาจการปกครองของประเทศสยามเหนือดินแดนเมืองตราด และ จันทบุรี ซึ่งถูกฝรั่งเศษยึดครองถึง ๑๒ ปี อันสำเร็จได้ด้วยความพยายามในการเจรจาต่อรอง โดยรัฐบาลสยามยินยอมยกเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณให้แก่ฝรั่งเศส ฝ่ายฝรั่งเศสยอมให้คนในบังคับของตนขึ้มมาศาลไทยและยอมคืนเมืองตราดและจันทบุรี ให้แก่ประเทศสยามทั้งนี้หนังสือสัญญาฉบับนี้ได้รับการอนุมัติในรัฐสภาของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ . ศ . ๒๔๕๐

จำนวนเหรียญที่สั่งจริงนั้นได้ข้อมูลค่อนข้างชัดเจนว่ามีจำนวนการผลิต ดังนี้
– เหรียญทองคำ จำนวน ๓๐ เหรียญ
– เหรียญเงินจำนวน ๕๐๐ เหรียญ
– เหรียญทองขาว หรือ อัลปาก้า จำนวน ๑๐๐ , ๐๐๐ เหรียญ

เนื้ออัลปาก้า บล็อคเขยื้อน

เนื้ออัลปาก้า กะไหล่ทอง
ภาพเรือพระที่นั่งจักรี แล่นมาถึงท่าราชวรดิษฐ์ กรุงเทพฯ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พศ ๒๔๕๐
ภาพขณะเสด็จเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เที่ยงเศษ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พศ ๒๔๕๐

อนึ่ง เหรียญที่นำมาลงให้ดูนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า (Alpacca) ซึ่งเป็นชื่อทางการค้า (Trade Name) ของโลหะผสมระหว่าง นิกเกิ้ล ทองแดง และสังกะสี ซึ่งคิดค้นโดยบริษัท Berndorf แห่งประเทศออสเตรีย ในช่วงทศวรรษ 1850′ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ทดแทนโลหะเงินซึ่งมีมูลค่าสูง และขาดแคลนในช่วงเวลานั้น

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปใบเสมา ด้านบนมีห่วง
ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวครึ่งพระองค์ ผินพระ พักตร์ทางขวาของเหรียญทรงเครื่องเต็มยศทหารมหาดเล็กและมีพระ ปรมาภิไธยอยู่เบื้องบน “ จุฬาลงกรณ์ ” เบื้องล่าง “ บรมราชาธิราช ”
ด้านหลัง มีข้อความว่า “ เสด็จกลับจากยุโรปร.ศ. ๔๐๑๒๖ ”
ชนิด ทองคำ ทองขาว
ขนาด กว้าง 26 มิลลิเมตรยาว 34 มิลลิเมตร

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกงานพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายศิริวงษ์วัฒนเดช และหม่อมแม้น

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกงานพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายศิริวงษ์วัฒนเดช และหม่อมแม้น

พ.ศ.๒๔๕๑ (รศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกงานพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชายศิริวงษ์วัฒนดชและหม่อมแม้น

คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ทรงอภิเษกสมรสกับคุณแม้น กุลสตรีจากสกุล บุนนาค มีพระโอรส ธิดา ๒พระองค์ คือพระองค์เจ้าชายศิริวงศ์วัฒนเดช กับพระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล (ที่เป็นพระชนนีของพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ) พระองค์เจ้าศิริวงศ์วัฒนเดช ทรงสิ้นพระชนม์ที่เยอรมนีในวันที่ ๖ กรกฎาคม พศ ๒๔๕๑ ต่อมาในวันที่ ๓๐ มกราคม ปีพศ ๒๔๕๒ พระองค์เจ้าภาณุรังษีฯ จึงโปรดให้เริ่มงานพระศพพระองค์เจ้าศิริวงศ์วัฒนเดช และหม่อมแม้น ซึ่งถึงแก่กรรมไปก่อนแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๘ ที่วังบูรพาภิรมย์ แล้วชักศพไปตั้งที่เมรุที่วัดเทพศิรินทราวาส จากงานครั้งนั้นเองที่กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดชได้ทรงสร้าง “สะพานดำ” หรือ “สะพานแม้นศรี” ขึ้นที่สี่แยกสะพานดำ เพื่อเป็นการอุทิศให้แก่ศพทั้งสอง ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังคงเหลือนามมาจนถึงทุกวันนี้ (ตัวสะพานไม่มีแล้ว)-* เดือนมกราคม พศ ๒๔๕๒ ยังนับเป็น รศ๑๒๗ อยู่

พระองค์เจ้าภาณุรังษีฯ กับหม่อมแม้น

ข้อมูลจำเพาะ

ด้านหน้า ด้านบนเป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ รูปพระอาทิตย์ขึ้น กำลังทอแสง เปล่ง รัศมี บนผิวน้ำ และมีห่วงเชื่อมติดด้านบน ด้านล่างเป็นรูปหัวใจคู่ มีข้อความจารึกบนหัวใจทั้งสองดวงดังนี้
หัวใจดวงซ้าย : ไว้อาลัยใน พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า ศิริวงษ์วัฒนเดช และคุณแม้น
หัวใจดวงขวา : งานพระศพ และศพ ณ วัดเทพศิรินทรวาศ รัตนโกสินทร์ ศก ๑๒๗ 
ด้านหลัง เรียบ ไม่มีข้อความ และลวดลายใดๆ
ชนิด เงิน และเงินกะไหล่ทอง
ขนาด กว้างประมาณ ๑.๙ ซม

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญระฆังวัดเบญจมบพิตร

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญระฆังวัดเบญจมบพิตร

พ.ศ.๒๔๕๑ ( รศ. ๑๒๗ ) เหรียญระฆังวัดเบญจมบพิตร

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกชมสวน

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกชมสวน

พ.ศ.๒๔๕๑ เหรียญที่ระลึกชมสวน

บ้านหิมพานต์ หรือปาร์คสามเสน มีพระสรรพการหิรัญกิจ (เชย อิศรภักดี) เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๖๗๗ ถนนสามเสน อำเภอดุสิต มีขนาดที่ดินประมาณ ๑๖,๐๐๐ ตรว สิ่งปลูกสร้างเป็นตึกแบบฝรั่งขนาดใหญ่ถึง ๒ หลัง กับเรือนนอนไม้ ๑ หลัง และมีกระโจม ๑ หลัง มีโรงละคร สระน้ำ และอื่นๆ การปลูกสร้างก็ล้วนด้วยช่างฝีมืออย่างวิจิตร มีลวดลายสลักงดงามตามแบบคฤหาสน์ของชาวตะวันตก บริเวณทั่วไปตกแต่งเป็นเนินดิน มีอุโมงค์ มีภูเขาจำลอง ประดับด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ต่างๆ มากมาย ดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัยเป็นที่พักผ่อนได้ดี ปาร์คแห่งนี้ (ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพระสรรพการฯด้วย) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้เข้าชมในปีพศ ๒๔๕๑ หรือ รศ๑๒๗

ต่อมา หลังจากเปิดได้ราว ๒ ถึง ๓ ปี ได้ตกทอดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของแบงค์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพอพระราชหฤทัยมาก ได้ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อทั้งที่ดินและสิ่งก่อสร้างคือที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๕/๓๓๕๔ อ เลขที่ ๑๙ ในราคา ๓๐,๐๐๐ ชั่ง (๒๔๐,๐๐๐ บาท) โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองคุมงานจัดดัดแปลงให้เป็นสถานพยาบาล ซึ่งก็คือโรงพยาบาลวชิรพยาบาลนั่นเอง ได้ทรงออกค่าปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่ จัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการแพทย์และการพยาบาล ตลอดจนอุปกรณ์อื่นๆ สั้นพระราชทรัพย์อีก ๓๗,๕๗๖.๐๐ บาท จึงเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะเปิดใช้สถานพยาบาลได้


พระสรรพการหิรัญกิจ เป็นบุตรชายคนที่ ๓ ของพรหมาภิบาลและเป็นราชองครักษ์ผู้ได้รับความนับหน้าถือตาอย่างสูงในสยาม หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วก็ได้เข้ารับราชการอยู่ราว ๑๐ ปี ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดีกระทรวงคลัง อย่างไรก็ตามการตั้งธนาคารสยามกัมมาจล (ธนาคารไทยพาณิชย์ในสมัยต่อมา) และการแต่งตั้งพระสรรพการหิรัญกิจให้เป็นผู้จัดการของธนาคารแห่งนี้ทำให้ท่านต้องเกษียณจากราชการ นับแต่นั้นมาท่านก็ได้อุทิศเวลาทั้งหมดในการประกอบกิจการธนาคาร และความสำเร็จตลอดจนความมั่นคงของธนาคารเป็นเครื่องแสดงถึงความสามารถในการจัดการและการได้รับการฝึกฝนทางการเงินมาเป็นอย่างดี

อนึ่ง จาก โฆษณาจำหน่ายเหรียญหิมพานต์ป๊าก จากหนังสือพิมพ์ไทย ฉบับวันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๗ พ.ศ. ๒๔๕๑ ได้กล่าวไว้ว่า“จำหน่ายเหรียญ หิมพานต์ป๊าก ด้วยเจ้าของหิมพานต์ป๊าก ให้สร้างเหรียญทองคำและเหรียญเงิน สำหรับหิมพานต์ป๊ากขึ้นแล้วอย่างงดงามสำหรับจำหน่ายแก่ผู้ต้องการ

๑. ผู้ที่มีเหรียญนี้มีอำนาจเที่ยวในป๊ากได้ตลอดเวลามีกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร ศก ๑๒๗ เป็นต้น ไปถึง รัตนโกสินทร ศก ๑๓๐

๒. ผู้ที่ถือเหรียญนี้มีอำนาจจะพาเพื่อนฝูง หรือบุตร ภรรยาไปได้คราวหนึ่งไม่เกิน ๒ คน

๓. ผู้ที่ถือเหรียญนี้ ต้องมีหนังสือสำคัญฉบับหนึ่ง แสดงว่าได้ถือเหรียญนี้ไว้อย่างถูกต้อง และได้ส่งเงินค่าเหรียญตามอัตราแล้ว

๔. ผู้ที่จะขอรับเหรียญอนุณาตนี้ ต้องเสียเงินค่าบำรุง แก่หิมพานต์ป๊ากจะเป็นจำนวนเงินคราวเดียวตลอดเวลา ๑ ปี เหรียญทองคำ ๒๐๐ บาท เหรียญเงิน ๑๐๐ บาท เพราะฉนั้นถ้าท่านผู้หนึ่งผู้ใดมีความประสงค์จะใคร่รับเหรียญชนิดใด เพื่อเป็นการบำรุงอุดหนุนหิมพานต์ป๊าก ซึ่งเป็นที่สำหรับเที่ยวและพบปะสนทนากันกับเพื่อนฝูง และเพื่อพักผ่อนการงานสำหรับความรื่นเริง ซึ่งพึ่งเกิดมีชื่อเสียงต่อชาติแล้ว โปรดนำเงินไปรับที่ประสารทรัพย์บริษัทบาง ขุนพรม ตั้งแต่เช้า ๓ โมง ถึงบ่าย ๓ โมง ทุกวันเสาร์เพียงเที่ยง เว้นแต่วันอาทิตย์ปิด”

วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
หลวงประสาร อักษร พรรณ
ผู้อำนวยการ

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปไข่ ขอบเรียบ
ด้านหน้า กลางเหรียญเป็นรูปโลห์มีตัวเลขจารึก “ ร.ศ.๙๙ ” ทั้งสองข้างมีเทวดาถือพระขรรค์ เหนือโลห์มีพญานาค 3 เศียร ด้านล่าง ชิดวงขอบมีแถบจารึก ปีจุลศักราช “ ๑๒๔๒ ”
ด้านหลัง มีข้อความว่า “ อนุญาตชมสวน๑๒๗ ” อยู่ภายในวงพวงมาลา
ชนิด เงิน
ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 28 มิลลิเมตร

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

พ.ศ.๒๔๕๑ เหรียญที่ระลึกรัชมังคลาภิเษก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

เหรียญรัชมังคลาภิเศก มูลเหตุที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างเหรียญนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรวุธ สยามมกุฏราชกุมาร สร้างเหรียญรัชมังคลาภิเศกขึ้น เนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศกครองราชย์ ๔๐ พรรษา อันเป็นพระราชพิธีสำคัญของประเทศไทยและในคราวเดียวกันนั้น ก็ได้มีการเปิดพระราชานุสาวรีย์ หรือพระบรมรูปทรงม้าขึ้น ดังนั้นเหรียญจึงมี ๒ ลักษณะ คือ รูปไข่ ด้านหลังเป็นตราครุฑ สร้างในวโรกาสพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศก ส่วน รูปกลมรีด้านหน้าเป็นพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัว ทรงม้าบนฐานอนุสาวรีย์ด้านหลังมีข้อความว่า “ ที่ระฤก ที่ได้ฉลองพระเดชพระคุณในงานรัชมังคลาภิเศก รัตนโกสินทร์ ๑๒๗ ” สร้างในวโรกาสเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์

ภาพพระบรมรูปทรงม้า ในระหว่างงานรัชมังคลาภิเษก เดือนพฤศจิกายน พศ ๒๔๕๑

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปไข่ ขอบเรียบ
ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงม้าอยู่บนฐานอนุสาวรีย์ ริมขอบมีพระปรมาภิไธย “ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ” และมีสายบัวรวนอยู่โดยรอบริมขอบ
ด้านหลัง มีข้อความว่า “ ที่ระฦกที่ได้ ฉลองพระเดช พระคุณในงานรัชมังคลาภิเศกรัตนโกสินทรศก ๔๐๑๒๗ ”
ชนิด ทองคำ เงิน บรอนซ์ เงินกาไหล่ทองลงยา เงินลงยา
ขนาด กว้าง 23 มิลลิเมตร ยาว 29 มิลลิเมตร

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญฉลองกู่

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญฉลองกู่

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญฉลองกู่

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

สามัคยาจารย์สมาคมตั้งอยู่ ณ บริเวณโรงเรียนสวนกุหลาบ เริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ 15 กันยายน ร.ศ. 121 แต่ได้จัดเป็นสมาคมอย่างแท้จริง มีการตั้งกรรมการและรับสมัครสมาชิก เมื่อวันที่ 6 มกราคม ร.ศ. 123 วัตถุประสงค์ของสมาคมมี 3 ประการ คือเพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งศิลปวิทยา เป็นที่ประชุมข้าราชการและเพื่อนข้าราชการทั่วประเทศ และเป็นที่ประชุมจัดกิจกรรมสันทนาการ สมาชิกของสามัคยาจารย์สมาคมในปีแรกมีจำนวน 213 คน มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางวิชาการให้แก่สมาชิกเป็นประจำ สำหรับสมาชิกในต่างจังหวัดจะได้รับความรู้โดยทางหนังสือพิมพ์วิทยาจารย์ ซึ่งเป็นหนังสือนิตยสารของสมาคม อาคารสามัคยาจารย์ชั้นล่างใช้เป็นที่ประชุมแสดงปาฐกถาและบรรยายงานวิชาการ ชั้นบนเป็นห้องสมุดและที่ทำงานของคุรุสภาระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2502

อนึ่ง เหรียญสามัคยาจารย์สมาคมนี้ ได้ถูกใช้เป็นรางวัลหมั่นเรียนด้วย โดยมอบให้นักเรียนที่มาเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีทั้งชนิดเหรียญเงิน และทองแดง ขึ้นกับระดับความหมั่นเรียน ด้านหลังมักจะจารึกชื่อนักเรียน ซึ่งเป็นเด็กชาย หรือเด็กหญิงไว้

Categories
King Rama V พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ.๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล