Category: Royal Order Medal
หมวดเหรียญราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. ๒๔๖๑ เหรียญงานพระราชสงครามทวีปยุโรป
The War Medal of B.E. 2461
ใช้อักษรย่อว่า ร.ส. จัดเป็นเหรียญราชอิสริยาภรณ์ประเภทเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้าหาญ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ไปพระราชสงครามในทวีปยุโรป (สงครามโลกครั้งที่ ๑) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑


ผู้ออกแบบ : หม่อมเจ้าอิทธิเทพสวรรค์ กฤดากร
ผู้ปั้นแบบ : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
เหรียญงานพระราชสงครามทวีปยุโรป เป็นเหรียญกลมเงิน
ด้านหน้า มีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพักตร์เสี้ยวและมีอักษรที่ริมขอบว่า “รามาธิปติสยามินโท วชิราวุธวิสสุโต” แปลว่า สมเด็จพระรามาธิบดีเจ้าจอมสยาม มีพระบรมนามาภิไธยปรากฎว่า “วชิราวุธ”
ด้านหลัง มีรูปวชิราวุธ มีรัศมีพานรองสองชั้น มีฉัตรสองข้าง และมีอักษรที่ริมขอบว่า “งานพระราชสงครามในทวีปยุโรป พระพุทธศักราช ๒๔๖๑” ห้อยกับแพรแถบสีบานเย็น มีริ้วสีดำสองข้าง กว้าง ๓.๕ เซนติเมตร ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
พ.ศ. ๒๔๖๔ เหรียญชัย
The Chai Medal
เดิมเรียกว่า เหรียญนารายณ์บันฦๅชัย อักษรย่อว่า ร.ช. จัดเป็นประเภทเหรียญที่พระราชทานเป็นที่ระลึก


พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญชัยขึ้นเมื่อ ปีระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับพระราชทานเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ได้ปฏิบัติราชการในคราวงานพระราชสงคราม ณ ทวีปยุโรป (สงครามโลกครั้งที่ ๑) พ.ศ. ๒๔๖๑
ทั้งนี้เนื่องจากในที่ประชุมสัมพันธมิตรได้ปรึกษาตกลงเห็นพ้องต้องกันว่าให้มีการสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้น โดยใช้สีแพรแถบห้อยเหรียญเหมือนกันทุกประเทศ ส่วนตัวเหรียญแล้วแต่ประเทศใดๆ จะเลือกทำมีรูปสัณฐานคล้ายๆ กันได้ตามพอใจ
เหรียญชัยนี้ มีชนิดเดียว เป็นเหรียญทองสัมฤทธิ์รูปกลม
ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปนารายณ์บันฦๅชัย
ด้านหลัง มีอักษรว่า “มหาสงครามเพื่ออารยธรรม” มีห่วงสำหรับร้อยแพรแถบสีรุ้ง กว้าง ๓.๗ เซนติเมตร ซึ่งสีแพรแถบนี้เป็นสีตามข้อตกลงของที่ประชุมของฝ่ายสัมพันธมิตร
ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
ผู้ออกแบบ : หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
อนึ่ง เหรียญราชอิสริยาภรณ์ไทยที่เป็นเหรียญที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ ๑ นั้น มี ๒ เหรียญ คือ
๑. เหรียญงานพระราชสงครามทวีปยุโรป ทรงสร้างโดยพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้าหาญในราชการสงครามโลกครั้งที่ ๑ ณ ทวีปยุโรป
๒. เหรียญนารายณ์บันฦๅชัย เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ไปร่มรบในสงครามโลก ตามข้อตกลงในกลุ่มประเทศสัมพันธมิตรที่ได้รับชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ ๑ ครั้งนั้น โดยกำหนดให้ใช้แพรแถบ สีรุ้งเป็นสากล
พ.ศ. ๒๔๖๘ เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๗
King Prajadhipok’s Coronation Medal (Rama VII)
ร.ร.ศ. (๗) หมายถึง เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๗

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญบรมราชาภิเษกประจำรัชกาลที่ ๗ ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นเหรียญกลม ทำด้วยเงินกะไหล่ทองและเงิน
ด้านหน้า ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีอักษรที่ขอบว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว”
ด้านหลัง มีอักษรว่า “เสด็จเถลิงราชมไหสวรรยสมบัติบรมราชาภิเศก วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๘”
ใช้ห้อยกับแพรแถบริ้วสีเหลืองกับสีเขียวสลับกัน กว้าง ๓ เซนติเมตร ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
พ.ศ.๒๔๖๘ เหรียญศารทูลมาลา
The Saratul Mala Medal
ใช้อักษรย่อ ร.ศ.ท.
เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในราชการ มีชนิดเดียว เป็นเหรียญเงิน


ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรรจบรอบปีที่ ๑๕ ใน พ.ศ. ๒๔๖๘ ซึ่งกองเสือป่าอาสาสมัครได้ดำเนินตามกระแสพระบรมราโชบายมั่นคงเป็นปึกแผ่นแผ่ไปทั่วพระราชอาณาจักร จนประสบผลแล้วซึ่งความยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชดำริเห็นสมควรที่จะสถาปนาเหรียญศารทูลมาลาสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ที่ปฏิบัติราชการเสือป่า ด้วยความอุตสาหะ ที่รับราชการมาครบกำหนด ๑๕ ปีบริบูรณ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญัติเหรียญศารทูลมาลา พระพุทธศักราช ๒๔๖๘” ขึ้น ประกาศไว้ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘ โดยให้ใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๘
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอำนวยการการฝึกและทอดพระเนตรการประลองยุทธของกองเสือป่าที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปณาขึ้น โดยประกาศเป็นพระราชปรารภ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ ว่าทรงมุ่งหมายที่จะเปิดโอกาสให้พลเรือน ทั้งที่เป็นข้าราชการและพ่อค้าคหบดี
ที่มีความปรารถนาจะได้รับการฝึกหัดอย่างทหาร ได้ฝึกหัดตามความประสงค์อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง คือ ทำให้บุคคลที่ได้รับการฝึกเช่นนั้นเป็นราษฎรที่ดี มีกำลังกายและความคิดแก่กล้าในทางที่เป็นประโยชน์ มีความรักชาติบ้านเมือง มีความสามัคคี และให้เป็นนักรบได้เมื่อถึงคราวที่ประเทศชาติต้องการ
เหรียญศารทูลมาลาเป็นเหรียญเงิน มีสัณฐานเป็นรูปจักรหมายยศเสือป่า
ด้านหน้า เป็นรูปหน้าเสือทรงมงกุฎอยู่กลางในวงจักร
ด้านหลัง ตรงกลางมีอักษรพระนามาภิไธย ร.ร.๖ มีอักษรจารึกวงรอบข้างบนว่า
“บำเหน็จแห่งความยั่งยืน” และจารึกอักษรที่วงรอบข้างล่างว่า “ในราชการเสือป่า ๑๕ ปี” ที่ร้อยแพรแถบ สีดำ เหลือง สลับกันเป็นลายรุ้ง เป็นรูปวชิระสองคมมีเข็มกลัดเงิน เบื้องบนแพรแถบจารึกอักษรว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ใช้สำหรับประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
พ.ศ. ๒๔๗๐ เหรียญราชรุจิรัชกาลที่ ๗
King Prajadhipok’s Rajaruchi Medal (Rama VII)
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ มีเหรียญเงินกะไหล่ทองและเหรียญเงิน เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จในพระองค์พระมหากษัตริย์
เหรียญนี้มีรูปลักษณะและลวดลายเหมือนเหรียญราชรุจิรัชกาลที่ ๕ ต่างแต่ด้านหน้ามีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและมีอักษรที่ริมขอบเบื้องบนว่า “ปชาธิปโก ปรมราชาธิราชา” ที่ห่วงเหรียญมีอักษรว่า “ราชรุจิยา ทิน.นมิทํ” ห้อยกับแพรแถบสีเขียว กว้าง ๓.๓ เซนติเมตร ด้านหลัง มีรูปจักร
สำหรับพระราชทานฝ่ายหน้า (บุรุษ) ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
สำหรับพระราชทานฝ่ายใน (สตรี) แพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับที่หน้าบ่าซ้าย
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน

พ.ศ. ๒๔๗๕ เหรียญเฉลิมพระนคร ๑๕๐ ปี
The 150 Years Commemoration of Bangkok Medal
เป็นเหรียญที่พระราชทานเป็นที่ระลึก ใช้อักษรย่อ ร.ฉ.พ.

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นสำหรับพระราชทานเพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองครบรอบ ๑๕๐ ปี แห่งการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราช ณ พลับพลาพระราชพิธี ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ เป็นพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งในการฉลองพระนครครบ ๑๕๐ ปี
เหรียญเฉลิมพระนคร ๑๕๐ ปี
เป็นเหรียญรูปกลม มี ๒ ชนิด คือ เหรียญกะไหล่ทองและเหรียญเงิน
ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกกับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีอักษรที่ริมขอบว่า “พระพุทธยอดฟ้า” “พระปกเกล้า”
ด้านหลัง มีอักษรว่า “เฉลิมพระนครร้อยห้าสิบปี พ.ศ. ๒๓๒๕ – ๒๔๗๕” มีห่วงสำหรับร้อยแพรแถบสีเขียว กลางเป็นรุ้งสีเหลือง กว้าง ๓ เซนติเมตร
ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
ผู้ออกแบบ : ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
พ.ศ. ๒๔๗๖ เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
The Safeguarding the constitution Medal
ใช้อักษรย่อ พ.ร.ธ. เหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้าหาญ

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนั้นสำหรับเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ช่วยเหลือราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนในการปราบกบฏบวรเดช* ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นสมควรได้รับพระราชทาน โดยได้ตรา “พระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๔๗๖” ขึ้นใช้ ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป คือ วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
ผู้ออกแบบ : กรมศิลปากร
เป็นเหรียญทองแดงรมดำรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านละ ๒๓ มิลลิเมตร ย่อกลางทั้งสี่ด้าน ด้านหน้า มีภาพสมุดรัฐธรรมนูญวางบนพานแว่นฟ้าสองชั้นอยู่ภายในวงพวงมาลัยชัยพฤกษ์ แผ่รัศมีกระจายทั่วมณฑล ด้านหลัง มีรูปพระสยามเทวาธิราชทรงพระขรรค์ในท่าประหารปรปักษ์ ยืนลอยอยู่เหนือตัวอักษรตามขอบล่างว่า “ปราบกบฏ พ.ศ. ๒๔๗๖” ภายใต้ห่วงอันมีอักษรว่า “พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” แพรแถบสีธงไตรรงค์ กว้าง ๒๘ มิลลิเมตร ห้อยแพรแถบมีเข็มโลหะทองแดงรมดำจารึกอักษรว่า “สละชีพเพื่อชาติ”
การประดับ
๑. ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
๒. ผู้ที่เป็นทหาร ตำรวจ หรือลูกเสือ ประดับเหรียญนี้ได้ทุกโอกาสตามแต่จะเห็นสมควรในเมื่อสวมเครื่องแบบ
๓. สำหรับ (๑) ผู้ที่ไม่สวมเครื่องแบบทหาร ตำรวจ หรือลูกเสือ (๒) พลเรือนทั่วไป ประดับเหรียญนี้ได้ในโอกาสต่อไปนี้
ก. ในงานพระราชพิธีและงานต่างๆ ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าหน้าที่จัดการ
ข. ในงานต่างๆ ที่เป็นงานพิธีหรืองานเพื่อเกียรติยศแก่หมู่เหล่าหรือบุคคลใดที่สมควรการแต่งกาย ให้แต่งอย่างสุภาพตามธรรมเนียม และกาลนิยม
พ.ศ. ๒๔๘๔ เหรียญช่วยราชการเขตภายใน
The medal for Service Rendered in the Interior
ใช้อักษรย่อ ช.ร.
เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในราชการซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ในรัชสมัยของสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ตามพระราชกำหนดเหรียญช่วยราชการเขตภายใน พุทธศักราช ๒๔๘๔ สำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับมอบหน้าที่ให้ช่วยเหลือราชการทหารหรือตำรวจเกี่ยวกับการรบตามคำสั่งของทางราชการ หรือองค์การซึ่งทางราชการรับรอง มี ๒ ชนิด เป็นเหรียญโลหะกลม ต่างกันที่สีของแพรแถบตามสมัยของการรบ ได้แก่ เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา เหรียญช่วยราชการเขตภายในการรบสงครามอินโดจีน
ผู้ออกแบบ : กรมศิลปากร
เหรียญช่วยราชการเขตภายในเป็นเหรียญโลหะกลม ด้านหน้า ตรงกลางมีรูปมหามงกุฎอยู่เหนือจักร ซ้ายขวาเป็นรูปปีกนก มีสมอขัดในวงจักร ด้านหลัง มีจารึกอักษรว่า “ช่วยราชการเขตภายใน” เหรียญห้อยกับแพรแถบสีต่างๆ ตามสมัยของการรบ ซึ่งกำหนดโดยพระราชกฤษฏีกาดังนี้
แพรแถบ การรบสงครามอินโดจีน แพรแถบสีแดงกว้าง ๓.๕ เซนติเมตร มีริ้วสีขาว ตอนกลางของแถบกว้าง ๕ มิลลิเมตร ข้างบนมีเข็มโลหะรูปช่อชัยพฤกษ์
แพรแถบ การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา แพรแถบสีเขียวกว้าง ๓.๕ เซนติเมตร มีริ้วสีแดง ตอนกลางของขอบกว้าง ๕ มิลลิเมตร ข้างบนมีเข็มโลหะรูปช่อชัยพฤกษ์
สำหรับพระราชทานบุรุษ ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
สำหรับพระราชทานสตรี ใช้ห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย
การพระราชทาน และการส่งคืน / การเรียกคืน
๑. พระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับมอบหน้าที่ให้ช่วยเหลือราชการทหารหรือตำรวจเกี่ยวกับการรบตามคำสั่งของทางราชการหรือองค์การซึ่งทางราชการรับรอง
๒. พระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับ เมื่อผู้ได้พระราชทานวายชนม์ให้ทายาทโดยธรรมรักษาไว้เป็นที่ระลึก
๓. ถ้าผู้ได้รับพระราชทานก็ดี ทายาทโดยธรรมก็ดีกระทำความผิดร้ายแรงหรือประพฤติตนไม่สมเกียรติอาจทรงเรียกคืนได้ ถ้าส่งคืนไม่ได้ด้วยประการใดๆ ต้องใช้ราคาเหรียญนี้แก่ทางราชการ ตามราคาที่กำหนด
๔. เหรียญนี้ไม่มีประกาศนียบัตร เป็นแต่ประกาศนามในราชกิจจานุเบกษา
๕. ผู้สมควรที่จะได้รับพระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายในประกอบด้วย
๑. ได้กระทำการช่วยเหลือเป็นประโยชน์แก่ราชการทหารหรือตำรวจเกี่ยวกับการรบ
๒. ทางราชการหรือองค์การ ซึ่งทางราชการรับรองได้มีคำสั่งมอบหมายหน้าที่ให้กระทำการช่วยเหลือ
๓. การช่วยเหลือนั้น สำหรับข้าราชการต้องกระทำนอกเหนือหน้าที่ราชการตามปกติ