Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกชมสวน

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญที่ระลึกชมสวน

พ.ศ.๒๔๕๑ เหรียญที่ระลึกชมสวน

บ้านหิมพานต์ หรือปาร์คสามเสน มีพระสรรพการหิรัญกิจ (เชย อิศรภักดี) เป็นเจ้าของ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๖๗๗ ถนนสามเสน อำเภอดุสิต มีขนาดที่ดินประมาณ ๑๖,๐๐๐ ตรว สิ่งปลูกสร้างเป็นตึกแบบฝรั่งขนาดใหญ่ถึง ๒ หลัง กับเรือนนอนไม้ ๑ หลัง และมีกระโจม ๑ หลัง มีโรงละคร สระน้ำ และอื่นๆ การปลูกสร้างก็ล้วนด้วยช่างฝีมืออย่างวิจิตร มีลวดลายสลักงดงามตามแบบคฤหาสน์ของชาวตะวันตก บริเวณทั่วไปตกแต่งเป็นเนินดิน มีอุโมงค์ มีภูเขาจำลอง ประดับด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ต่างๆ มากมาย ดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัยเป็นที่พักผ่อนได้ดี ปาร์คแห่งนี้ (ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพระสรรพการฯด้วย) ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้เข้าชมในปีพศ ๒๔๕๑ หรือ รศ๑๒๗

ต่อมา หลังจากเปิดได้ราว ๒ ถึง ๓ ปี ได้ตกทอดมาเป็นกรรมสิทธิ์ของแบงค์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพอพระราชหฤทัยมาก ได้ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อทั้งที่ดินและสิ่งก่อสร้างคือที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๕/๓๓๕๔ อ เลขที่ ๑๙ ในราคา ๓๐,๐๐๐ ชั่ง (๒๔๐,๐๐๐ บาท) โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองคุมงานจัดดัดแปลงให้เป็นสถานพยาบาล ซึ่งก็คือโรงพยาบาลวชิรพยาบาลนั่นเอง ได้ทรงออกค่าปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่ จัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการแพทย์และการพยาบาล ตลอดจนอุปกรณ์อื่นๆ สั้นพระราชทรัพย์อีก ๓๗,๕๗๖.๐๐ บาท จึงเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะเปิดใช้สถานพยาบาลได้


พระสรรพการหิรัญกิจ เป็นบุตรชายคนที่ ๓ ของพรหมาภิบาลและเป็นราชองครักษ์ผู้ได้รับความนับหน้าถือตาอย่างสูงในสยาม หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วก็ได้เข้ารับราชการอยู่ราว ๑๐ ปี ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดีกระทรวงคลัง อย่างไรก็ตามการตั้งธนาคารสยามกัมมาจล (ธนาคารไทยพาณิชย์ในสมัยต่อมา) และการแต่งตั้งพระสรรพการหิรัญกิจให้เป็นผู้จัดการของธนาคารแห่งนี้ทำให้ท่านต้องเกษียณจากราชการ นับแต่นั้นมาท่านก็ได้อุทิศเวลาทั้งหมดในการประกอบกิจการธนาคาร และความสำเร็จตลอดจนความมั่นคงของธนาคารเป็นเครื่องแสดงถึงความสามารถในการจัดการและการได้รับการฝึกฝนทางการเงินมาเป็นอย่างดี

อนึ่ง จาก โฆษณาจำหน่ายเหรียญหิมพานต์ป๊าก จากหนังสือพิมพ์ไทย ฉบับวันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๗ พ.ศ. ๒๔๕๑ ได้กล่าวไว้ว่า“จำหน่ายเหรียญ หิมพานต์ป๊าก ด้วยเจ้าของหิมพานต์ป๊าก ให้สร้างเหรียญทองคำและเหรียญเงิน สำหรับหิมพานต์ป๊ากขึ้นแล้วอย่างงดงามสำหรับจำหน่ายแก่ผู้ต้องการ

๑. ผู้ที่มีเหรียญนี้มีอำนาจเที่ยวในป๊ากได้ตลอดเวลามีกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร ศก ๑๒๗ เป็นต้น ไปถึง รัตนโกสินทร ศก ๑๓๐

๒. ผู้ที่ถือเหรียญนี้มีอำนาจจะพาเพื่อนฝูง หรือบุตร ภรรยาไปได้คราวหนึ่งไม่เกิน ๒ คน

๓. ผู้ที่ถือเหรียญนี้ ต้องมีหนังสือสำคัญฉบับหนึ่ง แสดงว่าได้ถือเหรียญนี้ไว้อย่างถูกต้อง และได้ส่งเงินค่าเหรียญตามอัตราแล้ว

๔. ผู้ที่จะขอรับเหรียญอนุณาตนี้ ต้องเสียเงินค่าบำรุง แก่หิมพานต์ป๊ากจะเป็นจำนวนเงินคราวเดียวตลอดเวลา ๑ ปี เหรียญทองคำ ๒๐๐ บาท เหรียญเงิน ๑๐๐ บาท เพราะฉนั้นถ้าท่านผู้หนึ่งผู้ใดมีความประสงค์จะใคร่รับเหรียญชนิดใด เพื่อเป็นการบำรุงอุดหนุนหิมพานต์ป๊าก ซึ่งเป็นที่สำหรับเที่ยวและพบปะสนทนากันกับเพื่อนฝูง และเพื่อพักผ่อนการงานสำหรับความรื่นเริง ซึ่งพึ่งเกิดมีชื่อเสียงต่อชาติแล้ว โปรดนำเงินไปรับที่ประสารทรัพย์บริษัทบาง ขุนพรม ตั้งแต่เช้า ๓ โมง ถึงบ่าย ๓ โมง ทุกวันเสาร์เพียงเที่ยง เว้นแต่วันอาทิตย์ปิด”

วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗
หลวงประสาร อักษร พรรณ
ผู้อำนวยการ

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปไข่ ขอบเรียบ
ด้านหน้า กลางเหรียญเป็นรูปโลห์มีตัวเลขจารึก “ ร.ศ.๙๙ ” ทั้งสองข้างมีเทวดาถือพระขรรค์ เหนือโลห์มีพญานาค 3 เศียร ด้านล่าง ชิดวงขอบมีแถบจารึก ปีจุลศักราช “ ๑๒๔๒ ”
ด้านหลัง มีข้อความว่า “ อนุญาตชมสวน๑๒๗ ” อยู่ภายในวงพวงมาลา
ชนิด เงิน
ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 28 มิลลิเมตร

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

พ.ศ.๒๔๕๑ เหรียญที่ระลึกรัชมังคลาภิเษก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

เหรียญรัชมังคลาภิเศก มูลเหตุที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างเหรียญนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรวุธ สยามมกุฏราชกุมาร สร้างเหรียญรัชมังคลาภิเศกขึ้น เนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศกครองราชย์ ๔๐ พรรษา อันเป็นพระราชพิธีสำคัญของประเทศไทยและในคราวเดียวกันนั้น ก็ได้มีการเปิดพระราชานุสาวรีย์ หรือพระบรมรูปทรงม้าขึ้น ดังนั้นเหรียญจึงมี ๒ ลักษณะ คือ รูปไข่ ด้านหลังเป็นตราครุฑ สร้างในวโรกาสพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศก ส่วน รูปกลมรีด้านหน้าเป็นพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัว ทรงม้าบนฐานอนุสาวรีย์ด้านหลังมีข้อความว่า “ ที่ระฤก ที่ได้ฉลองพระเดชพระคุณในงานรัชมังคลาภิเศก รัตนโกสินทร์ ๑๒๗ ” สร้างในวโรกาสเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์

ภาพพระบรมรูปทรงม้า ในระหว่างงานรัชมังคลาภิเษก เดือนพฤศจิกายน พศ ๒๔๕๑

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปไข่ ขอบเรียบ
ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงม้าอยู่บนฐานอนุสาวรีย์ ริมขอบมีพระปรมาภิไธย “ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ” และมีสายบัวรวนอยู่โดยรอบริมขอบ
ด้านหลัง มีข้อความว่า “ ที่ระฦกที่ได้ ฉลองพระเดช พระคุณในงานรัชมังคลาภิเศกรัตนโกสินทรศก ๔๐๑๒๗ ”
ชนิด ทองคำ เงิน บรอนซ์ เงินกาไหล่ทองลงยา เงินลงยา
ขนาด กว้าง 23 มิลลิเมตร ยาว 29 มิลลิเมตร

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก

พ.ศ.๒๔๕๑ (ร.ศ.๑๒๗) เหรียญรัชมังคลาภิเศก

พ.ศ.๒๔๕๑ เหรียญที่ระลึกรัชมังคลาภิเษก หรือเหรียญพระบรมรูปทรงม้า

เหรียญรัชมังคลาภิเศก มูลเหตุที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างเหรียญนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรวุธ สยามมกุฏราชกุมาร สร้างเหรียญรัชมังคลาภิเศกขึ้น เนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศกครองราชย์ ๔๐ พรรษา อันเป็นพระราชพิธีสำคัญของประเทศไทยและในคราวเดียวกันนั้น ก็ได้มีการเปิดพระราชานุสาวรีย์ หรือพระบรมรูปทรงม้าขึ้น ดังนั้นเหรียญจึงมี ๒ ลักษณะ คือ รูปไข่ ด้านหลังเป็นตราครุฑ สร้างในวโรกาสพระราชพิธีรัชมังคลาภิเศก ส่วน รูปกลมรีด้านหน้าเป็นพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัว ทรงม้าบนฐานอนุสาวรีย์ด้านหลังมีข้อความว่า “ ที่ระฤก ที่ได้ฉลองพระเดชพระคุณในงานรัชมังคลาภิเศก รัตนโกสินทร์ ๑๒๗ ” สร้างในวโรกาสเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์


ภาพพระบรมรูปทรงม้า ในระหว่างงานรัชมังคลาภิเษก เดือนพฤศจิกายน พศ ๒๔๕๑

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นรูปไข่ ขอบเรียบ

ด้านหน้า : เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงม้าอยู่บนฐานอนุสาวรีย์ ริมขอบมีพระปรมาภิไธย “ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ” และมีสายบัวรวนอยู่โดยรอบริมขอบ

ด้านหลัง : มีข้อความว่า “ ที่ระฦกที่ได้ ฉลองพระเดช พระคุณในงานรัชมังคลาภิเศกรัตนโกสินทรศก ๔๐๑๒๗ ”

ชนิด : ทองคำ เงิน บรอนซ์ เงินกาไหล่ทองลงยา เงินลงยา ขนาด กว้าง 23 มิลลิเมตร ยาว 29 มิลลิเมตร

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญพระปฐมปาฏิหาริย์

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญฉลองกู่

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญฉลองกู่

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญฉลองกู่

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญสามัคยาจารย์สมาคม

สามัคยาจารย์สมาคมตั้งอยู่ ณ บริเวณโรงเรียนสวนกุหลาบ เริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ 15 กันยายน ร.ศ. 121 แต่ได้จัดเป็นสมาคมอย่างแท้จริง มีการตั้งกรรมการและรับสมัครสมาชิก เมื่อวันที่ 6 มกราคม ร.ศ. 123 วัตถุประสงค์ของสมาคมมี 3 ประการ คือเพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งศิลปวิทยา เป็นที่ประชุมข้าราชการและเพื่อนข้าราชการทั่วประเทศ และเป็นที่ประชุมจัดกิจกรรมสันทนาการ สมาชิกของสามัคยาจารย์สมาคมในปีแรกมีจำนวน 213 คน มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางวิชาการให้แก่สมาชิกเป็นประจำ สำหรับสมาชิกในต่างจังหวัดจะได้รับความรู้โดยทางหนังสือพิมพ์วิทยาจารย์ ซึ่งเป็นหนังสือนิตยสารของสมาคม อาคารสามัคยาจารย์ชั้นล่างใช้เป็นที่ประชุมแสดงปาฐกถาและบรรยายงานวิชาการ ชั้นบนเป็นห้องสมุดและที่ทำงานของคุรุสภาระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2502

อนึ่ง เหรียญสามัคยาจารย์สมาคมนี้ ได้ถูกใช้เป็นรางวัลหมั่นเรียนด้วย โดยมอบให้นักเรียนที่มาเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีทั้งชนิดเหรียญเงิน และทองแดง ขึ้นกับระดับความหมั่นเรียน ด้านหลังมักจะจารึกชื่อนักเรียน ซึ่งเป็นเด็กชาย หรือเด็กหญิงไว้

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ.๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีพระชนมายุศม์มงคล

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียถูที่ ระลึกเสด็จประพาศมณฑลฝ่ายใต้

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียถูที่ ระลึกเสด็จประพาศมณฑลฝ่ายใต้

พ.ศ.๒๔๕๒ ( รศ. ๑๒๘ ) เหรียญที่ระลึกเสด็จประพาศมณฑลฝ่ายใต้

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญที่ระลึกในงานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภซ พร้อม ยู่อี่ และ เหรียญอรุณ เทพบุตร

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญที่ระลึกในงานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภซ พร้อม ยู่อี่ และ เหรียญอรุณเทพบุตร

พ.ศ.๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) เหรียญที่ระลึกในงานพระศพพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช พร้อม ยู่อี่ และ เหรียญอรุณเทพบุตร

คำบรรยายภาพ: เหรียญที่ระลึกในงานพระศพ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช พร้อม ยู่อี่ สำหรับการประกวดเครื่องโต๊ะบูชา

พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช ประสูติวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๖ เป็นพระโอรสองค์ที่ ๒ ในเจ้าจอมมารดาเลื่อน (นิยะวานนท์) สิ้นพระชนม์พระชันษาเพียง ๑๗ ปี (นับแบบประเพณีโบราณ) เมื่อ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๕๒ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชบิดา แต่เป็นวันโศกเศร้ายิ่งของพระองค์ และ อีกเพียงปีเดียว สมเด็จพระราชบิดาก็เสด็จสวรรคตประมาณ ๑เดือน หลังจากทำบุญครบปีวันสิ้นพระชนม์ของพระราชโอรสพระองค์นี้ พระองค์เจ้าอุรุพงษฯ เป็นพระราชโอรส ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงโปรดปรานและเอ็นดูมาก (คงเช่นเดียวกับพ่อแม่ท่านอื่นๆยิ่งท่านมีพระราชโอรสธิดา ในตอนพระชนมายุมากขึ้นท่านคงจะรักเอ็นดูพระองค์น้อยๆทบทวีคูณ)


เหรียญที่นำมาลงให้ดูนี้มีสองแบบ แบบแรกเป็นชนิดหน้าพระรูปของพระองค์เจ้าฯ เนื้อเงินกะไหล่ทอง กับอีกแบบเป็นหน้าอรุณเทพบุตร ชนืดเนื้อเงิน ในตำราส่วนใหญ่ รวมถึงตำราของกองกษาปณ์ มักจะมีรูปให้ดูเฉพาะชนิดหน้าพระรูปเท่านั้น ส่วนอรุณเทพบุตรจะไม่ค่อยพบเห็น

ด้านหลังจะมีข้อความจารึกเหมือนกัน อนึ่งที่ขอบเหรียญด้านหน้า ขวา มีระบุไว้ว่า SUSSEF DES PARIS ด้านซ้าย ลงไว้ว่า Gh. suwat D.Fourcade

เหรียญอรุณเทพบุตร ด้านหลังเหมือนกัน พอดีมีผู้อธิบายตำนานอรุณเทพบุตรไว้ จึงขอนำมาลงไว้ที่นี้ครับ (ถ้าขี้เกียจอ่าน ก็ข้ามไปได้เลย) ” พญานาคตามวรรณคดีนั้นคืออมนุษย์พวกหนึ่งเป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์ เป็นเจ้าแห่งงูอยู่ในบาดาลคือ ใต้แผ่นดินที่เรา อาศัยอยู่ลึกลงไปรูปร่างโดยทั่วไปเป็นงูใหญ่แต่มีเกล็ดและมีหงอนงามมาก พญานาคนั้นเป็นโอรสของพระกัสยปเทพบิดร (ซึ่งเป็นโอรสของพระพรหมอีกทีหนึ่ง) กับนางกัทรุ (ธิดาของพระทักษะประชาบดี) เมื่อกำเนิดมามารดาได้คลอดบุตรออกมาเป็นไข่ ๑,๐๐๐ ฟอง และ ๕๐๐ ปี ต่อมาก็แตกออกมาเป็นพญานาคนี้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อกล่าวถึงนาคแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องครุฑแทรกเข้ามาด้วย คือในขณะเดียวกันกับพวกนาคจะเกิดขึ้นนี้ พระกัสยปเทพบิดรมีชายาอีกนางหนึ่งคือนางวินตา

ซึ่งคาดว่าจะมีเรื่องระหองระแหงกับนางกัทรุมารดาของพวกนาคทั้งที่เป็นพี่น้องกัน สาเหตุนั้นคือเมื่อนางกัทรุตั้งครรภ์ นางขอพรพระกัสยปให้มีโอรสที่มีฤทธิ์หนึ่งพัน พระกัสยป ผู้เป็นพระสวามีก็ให้พรตามที่นางขอ นางวินตาเห็นดังนั้นก็ขอพรบ้าง แต่ขอให้มีโอรสเพียง ๒ องค์ แต่ให้มีฤทธิ์อำนาจเหนือกว่าโอรสของนางกัทรุ ดังนั้นเพียงแค ขอพรก็เห็นได้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่อง เพราะใครคงไม่อยากให้ลูกคนอื่นดีกว่าลูกตนเอง แต่ยังก่อนจนกระทั่งเวลา ผ่านไป ๕๐๐ ปี นางทั้งสองต่างก็คลอดโอรส โดยนางกัทรุคลอดออกมาเป็นนาคทั้งหมด ส่วนนางวินตา คลอดโอรสออก มาเป็นไข่ ๒ ฟอง แต่ยัง ไม่แตกออกมา นางร้อนใจจึงรีบทุบไข่ ฟองหนึ่งออกมา ผลปรากฏว่าไข่ฟองแรกของนางเกิดเป็นพระอรุณเทพบุตร มีรูปร่างใหญ่โต

แต่มีร่างเพียงครึ่งเดียวเพราะ เกิดก่อนกำหนด พระอรุณโกรธแม่มากเลยสาปให้นางวินตาต้องเป็นทาสนางกัทรุ ๕๐๐ ปีจนกว่าโอรสองค์ที่สองคือครุฑ จะถือกำเนิดแล้วจะมา ปลดปล่อยให้เป็นไท ส่วนตนเองก็เหาะขึ้นฟ้าไปเป็น สารถีให้พระอาทิตย์ ต่อมานางกัทรุกับนางวินตาเกิดพนันขันต่อกันขึ้น ( แสดงว่าการพนันมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว) ว่าม้าเทียมรถพระอาทิตย์คือม้าอุจไฉสรพะมีสีอะไร นางวินตาว่ามีสีขาว ส่วนนางกัทรุว่ามีสีดำ ซึ่งความจริงม้านั้นมีสีขาวทั้งตัว นางกัทรุในตอนหลังทราบว่าม้าเทียมรถพระอาทิตย์มีสีขาวก็กลัวจะแพ้พนันเลยให้นาคที่เป็นโอรสไปพ่นพิษใส่จนกลายเป็นสีดำหรือบางตำราก็ว่าให้นาคแปลงตัวไป แทรกขนม้าจนกลายเป็นขนสีดำ พอเช้ามานางวินตาก็ต้องแพ้พนันไปตามระเบียบต้องยอมตัวเป็นทาสตามเดิมพัน จวบจน ๕๐๐ ปี ให้หลังครุฑจึงเกิดมาเป็นพญานกมีฤทธิ์มาก เห็นแม่เป็นทาสก็เลยหาทางช่วยโดยไปต่อรองกับพวกนาคว่าจะขโมยน้ำอมฤตมาให้พวกนาคดื่มเพื่อจะได้เป็นอมตะซึ่งครุฑก็ขโมยมาจากพระอินทร์ได้สำเร็จ”

ทางด้านซ้ายมือคือพระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช
งานพระเมรุพระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ : เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมตัดทั้งสี่ด้าน มีห่วงอยู่ด้านบน
ด้านหน้า : เป็นพระรูป ของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภชริมขอบเหรียญ ด้านซ้ายมีอักษรจารึก “ Gh.Suwat D.Fourcade ” ด้านขวา “SUSSEF DES PARIS ”

ด้านหลัง : มีข้อความว่า

“ พระเจ้าลูกยาเธอ
พระองค์เจ้า
อุรุพงษ์รัชสมโภช
ประสูติ
๑๕ ตุลาคม ๑๑๒
สิ้นพระชนม์
๒๐ กันยายน ๑๒๘ ”


ชนิด : ทองขาว
ขนาด : กว้าง 18 มิลลิเมตร ยาว 29 มิลลิเมตร

ลักษณะของยู่อี่  ยู่อี่ (หยู่อี่, หรือ หยูอี้) หมายถึงคทา อันเป็นเครื่องยศชั้นสูงที่จักรพรรดิทรงมอบให้กับขุนนางผู้ใกล้ชิด หรือพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ แสดงถึงความมีวาสนา ใช้ประดับเหรียญที่ระลึกซึ่งพระราชทานเป็นรางวัล ในการประกวดเครื่องโต๊ะบูชา หรือใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง ในการจัดเครื่องโต๊ะบูชา

ด้านหน้า ทำจากแผ่นเงินเคลือบกะไหล่ทอง เป็นวิมานทรงเก๋งจีน ประทับอยู่บนก้อนเมฆ เจาะช่องตรงกลางเพื่อแสดงตัวเหรียญที่ระลึกฯ ในก้อนเมฆด้านล่างเก๋งจีน มีตัวเลขไทยอ่านกลับ จากขวาไปซ้ายว่า ๑๒๘ ซึ่งเป็นปีที่สิ้นพระชนม์

ด้านหลัง ช่องตรงกลางทำเป็นกรอบรางรับตัวเหรียญ ด้านบนยอดมีห่วง ด้านล่างตรงก้อนเมฆมีท่อทรงกระบอกขนาดเล็กสำหรับยึดเสียบกับตัวก้าน เพื่อใช้ปักบนกระถางธูป

Categories
เหรียญในรัชกาลที่ 5 พ.ศ.๒๔๕๓ (ร.ศ.๑๒๙) ตลับเงินที่ระลึกงานพระบรมศพรัชกาลที่ ๔ และเหรียญหนวด ช้างสามเศียร

พ.ศ.๒๔๕๓ (ร.ศ.๑๒๙) ตลับเงินที่ระลึกงานพระบรมศพรัชกาลที่ ๔ และเหรียญหนวด ช้างสามเศียร

พ.ศ.๒๔๕๓ ตลับเงินที่ระลึกงานพระบรมศพรัชกาลที่ ๕ และเหรียญหนวด ช้างสามเศียร

ผลิตขึ้นตามพระราชบัญัติมาตราทองคำ ร.ศ.๑๒๗ เพื่อใช้หมุนเวียนแทนเงินตรารุ่นเก่า สั่งผลิตจากโรงกษาปณ์ปารีส ประเทศฝรั่งเศส จำนวน ๑,๐๓๖,๖๙๑ เหรียญ ด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผินพระพักตรทางเบื้องขวาฉลองพระองค์เต็มยศทหารมหาดเล็ก มีอักษรพระปรมาภิไธย “ จุฬาลงกรณ์ สยามินทร์ ” ที่รอบขอบเหรียญ เหนือพระอังสาเบื้องซ้ายมีชื่อของผู้แกะสลักแม่แบบ A.PATEY ( AUGUSTE PATEY ) ด้านหลังเป็นรูปช้างสามเศียร มีอักษร “ สยามรัฐ ” “ ร.ศ.๔๑ ๑๒๗ ” และมีตัวอักษรบอกราคา “ หนึ่งบาท ” วงขอบนอกมีเฟือง ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “ เหรียญหนวด ” เพราะพระองค์ทรงไว้พระมัตสุที่งดงามมาก รูปช้าง ๓ เศียร หมายถึง สยามเหนือ สยามกลาง สยามใต้ เลข ๔๑ บน ร . ศ . หมายความว่า ได้ครองราชย์มา ๔๑ ปีแล้ว

ตัวอย่างตลับเงินที่ระลึกงานพระบรมศพรัชกาลที่ ๕

เหรียญกล่องคู่


คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่

เหรียญกล่องเดี่ยว ชุดที่๑

คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่

เหรียญกล่องเดี่ยว ชุดที่ ๒

เหรียญเงินหนึ่งบาทร.ศ.๑๒๗ สั่งเข้ามายังไม่ได้ประกาศใช้ พอดีผลัดแผ่นดินใหม่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเหรียญนี้เป็นที่ระลึกในงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี ร . ศ . ๑๒๙ ผู้ที่ได้รับพระราชทานแล้ว โปรดฯให้ไปรับกรอบที่จะใส่เหรียญนั้นที่กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ สำหรับฝ่ายในชั้นผู้ใหญ่ ได้รับพระราชทานตลับเงินใหญ่มีเหรียญอยู่ด้านหน้าตลับ ๒ เหรียญ สำหรับฝ่ายในชั้นผู้น้อยได้รับพระราชทานตลับเงินเล็กมีเหรียญบนฝาตลับเหรียญเดียว

ด้านหน้าเหรีญ ด้านหลังเหรีญเป็นรูปช้างสามเศียร

คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่

ขอบเฟือง เหรียญช้างสามเศียร รศ127 ให้สังเกตุขีดตรงร่องกลางเฟือง ซึ่งจะมีให้เห็นแทบทุกเฟืองครับ ผมคิดว่าดีไซน์ของขอบเฟืองช้างสามเศียรรศ127 นี้ ค่อนข้างเหมือน (เหมือนเลยก็ว่าได้) กับเหรียญบาทรัชกาลที่ 6

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่สังเกตเห็นได้ก็คือขอบเฟืองเป็นสันตรงไม่โค้งหรือเป็นขอบกระด้ง กล่าวคือขอบเหรียญจะไม่ถูกลบคมทั้ง 2 ด้านจนโค้งมนนั่นเอง ขอบเหรียญแต่ละด้านมีลักษณะยกตัวเล็กน้อยเป็นเทคนิคของผู้ออกแบบเพื่อรักษาผิวทั้ง 2 ด้านมิให้สึกหรอได้ง่าย

เหรียญที่นำรูปมาลงให้ดูนี้ มีร่องรอยการทำความสะอาดผิวเหรียญมาแต่เดิม แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นเหรียญหนวดที่มีสภาพสมบูรณ์ และสวยงามมากเหรียญหนึ่งครับ

เหรียญอื่นๆ

คลิ๊กเพื่อดูภาพใหญ่

ข้อมูลจำเพาะ

ลักษณะ เป็นเหรียญกษาปณ์ กลม แบน ขอบมีเฟือง
ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผินพระพักตรทางเบื้องขวาฉลองพระองค์เต็มยศทหารมหาดเล็ก มีอักษรพระปรมาภิไธย “ จุฬาลงกรณ์ สยามินทร์ ” ที่รอบขอบเหรียญ เหนือพระอังสาเบื้องซ้ายมีชื่อของผู้แกะสลักแม่แบบ A.PATEY ( AUGUSTE PATEY )
ด้านหลัง เป็นรูปช้างสามเศียร มีอักษร “ สยามรัฐ ” “ ร . ศ . ๔๑ ๑๒๗ ” และมีตัวอักษรบอกราคา “ หนึ่งบาท ” วงขอบนอกมีเฟือง รูปช้าง ๓ เศียร หมายถึง สยามเหนือ สยามกลาง สยามใต้ เลข ๔๑ บน ร . ศ . หมายความว่า ได้ครองราชย์มา ๔๑ ปีแล้ว
ชนิด เงิน
ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 มิลลิเมตร หนัก ๑๕ กรัม